
เอสเต ลอเดอร์ ประเทศไทย สานต่อภารกิจขจัดภัยมะเร็งเต้านม

นางสาวอรพรรณ พงศ์พานิช ดิจิทัลคอมเมิร์ซมาร์เก็ตติ้ง ไดเรคเตอร์ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เอสเต ลอเดอร์ เดินหน้าพันธกิจในการสร้างโลกที่ปราศจากมะเร็งเต้านมอย่างไม่หยุดยั้ง และสำหรับปี 2568 เราต้องการตอกย้ำว่า ‘Time to End Breast Cancer’ คือเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน บุคลากรทางการแพทย์ ผู้รอดชีวิต ครอบครัว หรือประชาชนทั่วไป เพราะพลังจากทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เราเชื่อมั่นว่าการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่การตรวจพบเร็ว การเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม และท้ายที่สุดคือการลดจำนวนผู้ป่วยและเพิ่มอัตรารอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมในอนาคต”
นอกจากนี้เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย สานต่อพันธกิจขจัดมะเร็งเต้านมซึ่งเป็นภัยร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงจำนวนมากทั่วโลกและเพื่อสนับสนุนการรณรงค์ในครั้งนี้ ทางแบรนด์ในเครือได้เปิดตัวคอลเล็กชันริบบิ้นสีชมพูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ (Pink Ribbon Items 2025) โดยนำรายได้ส่วนนึงไปสมทบทุนเพื่อบริจาคในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติต่อไป พร้อมเชิญชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ในเดือนแห่งการตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ผ่านผลิตภัณฑ์ความงามในคอลเล็กชันริบบิ้นสีชมพูนี้ อาทิ Advanced Night Repair ขนาด 50 มล. และ Bouquet of Strength Lip จาก Estee Lauder, Treatment Lotion ขนาด 150 มล. จาก LA MER, Dramatically Different Moisturizing Lotion+ ขนาด 125 มล. จาก CLINIQUE และ น้ำหอม Peony & Blush Suede ขนาด 100 มล. จาก Jo Malone London โดยวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉพาะห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทุกสาขาเท่านั้น
การจัดงานในปีนี้ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่
- งานเสวนา 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1) มะเร็งเต้านม ตรวจเจอไว รักษาทัน…ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 2) กำลังใจ…คือยาที่ดีที่สุด และ 3) แนวทางการดูแลผิวพรรณสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระหว่างการรักษาและหลังการหายป่วย จากแพทย์ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง พร้อมจัดนิทรรศการส่งต่อกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว
- นิทรรศการมะเร็งเต้านม ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจาก 5 เซเลบริตี้ชื่อดัง พร้อมนำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ครอบคลุมตั้งแต่อัตราการรอดชีวิตในแต่ละระยะ วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ตลอดจนสิทธิประโยชน์จากภาครัฐในการเข้าถึงการตรวจคัดกรองฟรี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างทั่วถึง
- Race Day: “Pink Ribbon Run 2025” งานวิ่งการกุศลในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ณ วัน แบงค็อก (One Bangkok) โดยรายได้ 100% ไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ “มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ”
- เวิร์คชอป ดูแลตัวเอง การดูแลผิวทั้งสำหรับผู้ป่วยระหว่างการรักษา และหลังการหายป่วย ขั้นตอนการดูแลผิวพรรณ รวมถึงวิธีการดูแลผิวที่ถูกต้อง เพื่อคืนความมั่นใจให้กับผู้ป่วย
ภายในงานมีเวทีเสวนาถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองที่น่าสนใจมากมายทั้งจากแพทย์เฉพาะทาง พยาบาล ผู้จัดการฝ่ายอบรมและพัฒนา จากเอสเต้ ลอเดอร์ ผู้รอดชีพจากมะเร็งเต้านม และคนใกล้ชิดในครอบครัวของผู้ป่วย
แพทย์หญิงวิภาวี นิยมในธรรม นายแพทย์ชำนาญการ จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยสถานการณ์มะเร็งเต้านมในไทยพบผู้ป่วยใหม่กว่า 20,000 – 22,000 รายต่อปี (ราว 12%) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงไทยโดยเฉลี่ย 1 ใน 8 มีโอกาสตรวจพบมะเร็งเต้านมในช่วงชีวิต และที่น่าเป็นห่วงคือในจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นนี้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,800 คนต่อปี หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ย 13 คนต่อวัน โดยมักมีปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุที่มากขึ้น เคยเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งที่เต้านม มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งที่เต้านม มีประจำเดือนเร็ว ก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดหลังอายุ 55 ปี เคยได้รับรังสีที่เต้านม หรือทรวงอก ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น แม้มะเร็งเต้านมจะเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งของสตรีไทยแต่ “ยิ่งพบเร็ว โอกาสรักษาหายยิ่งสูง” การตรวจคัดกรองสม่ำเสมอจึงสำคัญเพราะ “การตัดสินใจตรวจวันนี้ อาจช่วยรักษาชีวิตได้ในวันข้างหน้า”

บทเรียนจากผู้รอดชีวิต: ซื่อสัตย์กับร่างกายและ “ไปต่อได้”
แจง – วราพรรณ หงุ่ยตระกูล ผ่านประสบการณ์การรักษามะเร็งเต้านมระยะที่ 2 จนหายดี ได้เลือกใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกาย และ “ไปต่อได้” ขณะที่ นุ่น – ดารัณ ฐิตะกวิน ซึ่งเคยมั่นใจว่าร่างกายแข็งแรง เล่าถึงจุดเปลี่ยนเมื่อพบก้อนผิดปกติและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 2 ชนิด Her-2 ทำให้เธอ “ซื่อสัตย์กับร่างกาย” และตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ “พบเร็ว รักษาเร็ว หายเร็วจริง”
กำลังใจ… คือยาที่ดีที่สุด
งานวิจัยด้านจิตวิทยาสุขภาพชี้ว่าเครือข่ายการสนับสนุนที่ดีช่วยยกระดับผลลัพธ์การรักษา เวทีเสวนาถ่ายทอดพลังบวกจากผู้มีประสบการณ์จริงโดยแหวนแหวน – ปวริศา เพ็ญชาติ พบโรคตั้งแต่อายุ 23 ปีโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่ตรวจพบเร็ว “มันเป็นความโชคร้ายที่เจอโรคตั้งแต่อายุน้อย แต่ก็เป็นความโชคดีที่เจอเร็ว ‘Early detection saves life’ การเผชิญหน้ากับมะเร็งเต้านมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราเลือกที่จะไม่ปล่อยให้ความกลัวมาบดบังแสงสว่างในชีวิต ในแต่ละวันบอกตัวเองว่า เราจะก้าวผ่านมันไปได้ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง และโชคดีที่ได้รับกำลังใจจากคนที่รักเรา ความหวังและความศรัทธาคือพลังที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้ ด้านโยเกิร์ต – ณัฐฐชาช์ บุญประชม ที่เผชิญโรคจากคุณแม่สองครั้ง สรุปบทเรียนสำคัญว่า “สิ่งที่น่ากลัวกว่าการไปตรวจ คือการมีโรคอยู่แล้วแต่ไม่รู้ตัว” สำหรับเธอ Self-Care คือการดูแลทั้งกาย-ใจ เติมพลังด้วยกิจวัตรเล็ก ๆ และกรองพลังงานลบออกจากชีวิต พร้อมกันนั้น เธอยังอยากให้กำลังใจผู้ป่วยทุกคนว่า คุณไม่ได้สู้เพียงลำพัง ทุกก้าวเล็ก ๆ มีความหมาย และกำลังใจคือพลังที่ทำให้ผ่านวันที่ยากลำบากไปได้ ส่วนคนที่อยู่เคียงข้างและดูแลผู้ป่วยเอง ก็อย่าลืมมอบกำลังใจให้ตัวเองเช่นกัน เพราะความเข้มแข็งของคุณคือแรงใจสำคัญที่ส่งต่อให้ผู้ป่วยก้าวต่อไปได้อย่างไม่โดดเดี่ยว
แนวทางดูแลผิวพรรณระหว่างการรักษาและหลังหายป่วย
กระบวนการรักษามะเร็งเต้านมอาจก่อให้เกิดอาการผิวแห้ง ลอก คัน หรือระคายเคือง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นใจของผู้ป่วย การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยบรรเทาอาการ สร้างความสบายกาย และส่งผลดีต่อสภาพจิตใจในช่วงการรักษา โดยนางสาวสาธิดา เตชะภัทรพร Senior National Education Manager จากเอสเต ลอเดอร์ กล่าวว่า “การดูแลผิวในช่วงการรักษามะเร็งเต้านมไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เพราะผิวที่ได้รับการปกป้องและบำรุงอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายกายมากขึ้น และมีกำลังใจที่จะก้าวต่อสู้กับโรคได้อย่างมั่นใจ”

ก้าวต่อไปเพื่อสังคมไทยที่ปราศจากมะเร็งเต้านม
Breast Cancer Campaign 2025 คือภาพสะท้อนของการรวมพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับความตระหนักรู้ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูล การตรวจรักษา และบริการทางการแพทย์ พร้อมเครือข่ายสนับสนุนผู้ป่วยและผู้รอดชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย จึงเชิญชวนคนไทยร่วมกัน “รวมพลังช่วยกันหยุดยั้งมะเร็งเต้านม” เพราะเวลานี้คือเวลาที่ต้องลงมือ – Time to End Breast Cancer.

